วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

ทาส

แม้ยุคแห่งการเป็นทาสของคนอื่นมันจะหมดไปแล้วตั้งแต่สมัย  สมเด็จพระปิยมหาราช  ( ร.5 ) พระองค์ทรงช่วยปลดเปลื้องพสกนิกรออกจากความเป็นทาสก็ตาม  แต่ในปัจจุบันความเป็นทาสนั้นยังมีหลงเหลืออยู่ให้รับรู้โดยความเป็นนามธรรม  หากท่านสงสัยก็ตามมาทางนี้ดีกว่าเพื่อจะได้ทำความเข้าใจตามความเป็นจริงทุกคนย่อมจะพูดออกมาได้เต็มปากว่าในยุคนี้ไม่มีทาสเหมือนแต่ก่อนแล้วก็จริง  แต่ว่าทุกคนจะมีอาการโต้แย้งอยู่ในใจเสมอ  ฉันยังเป็นทาสอยู่เหมือนเดิมหรือนี้ไม่น่าเลย    คือคนในปัจจุบันเปลี่ยนจากความเป็นทาสแบบรูปธรรม  ( มีตัวตน )  กลับมาเป็นทาสแบบนามธรรม  ( ไม่มีตัวตน ) แทนอย่างไงละครับ  ทุกคนได้ผ่านพ้นจากความเป็นทาสโดยกำเนิดในสมัยพระสมเด็จปิยมหาราชเจ้าก็จริงแต่ทุกคนก็ยังยอมเป็นทาสอยู่นั่นเองคือทาสจำยอมมีอยู่  4  จำพวกดังนี้  ทาสรัก  ทาสกิเลส  ทาสวัตถุนิยม  ทาสสังคม  นี่ละครับทุกท่านคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตนไม่เคยเป็นทาสหนึ่งในสี่จำพวกนั้นมาก่อนหรือแม้แต่ในขณะนี้
                ทาสรัก  เป็นธรรมดาเมื่อเรา ๆ ท่าน ๆ มีความรักหรือมอบความรักให้แก่ใครแล้ว  มักจะตกเป็นทาสของเขาแบบไม่รู้ตัวแบบถอนตัวไม่ออกเลยอาทิเช่น  รักลูก  รักแฟน  จึงมักมีคำพังเพยว่า  ความรักมักทำให้คนตาบอดและมักจะยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตนรักเสมอ
                ทาสกิเลส  คนส่วนมากไม่ว่าใครก็ตามยอมหนีจากทาสชนิดนี้ได้ยากเพราะมันติดตามตัวตนเรามาตั้งแต่เกิด  ทาสชนิดนี้เกิดขึ้นกับใครแล้วย่อมทำจิตของเขาให้เศร้าหมอง  ขุ่นมัว  เร่าร้อน  กระวนกระวาย  กิเลสที่ว่านั้นมี  ราคะ  โทสะ  โมหะ  อิสสา  ริษยา  เป็นต้นแม้จะหนีเท่าไหร่ก็ไม้พ้นสักทีโยเฉาพะในปัจจุบันนี้ทาสชนิดนี้อาละวาดหนักมาก  เกิดขึ้นในหมู่ชนทุกระดับตั้งแต่  ชาวนาจนระดับผู้บริหารประเทศชาติสังคมจึงประสบกับปัญหากันมาหลายต่อหลายรุ่น
                ทาสวัตถุนิยม  คือการที่บุคคลติดอยู่ในความทรงเจริญของโลกไม่สามารถหยุดใจห้ามตนเองได้เช่นเห็นคนอื่นมีเสื้อผ้าสวย ๆ   บ้านหลังใหญ่โต  รถคันหรู ๆ เป็นต้นก็อดใจไว้ไม่ได้จำต้องยอมเสียเงินทองแลกเปลี่ยนซื้อหามาเพื่อสนองความต้องการของตน  ทาสวัตถุนิยมนี้หากว่าไม่พยายามตัดมันออกไปจะต้องได้รับความทุกข์ในมาจบสิ้นแน่แท้
                ทาสสังคม  คือการที่เรายอมรับใช้คนส่วนมากโดยการยอมทำหน้าที่เพื่อบริหารประเทศชาติบ้านเมืองแทนประชาชนอาทิเช่น  ผู้ใหญ่บ้าน  กำนัน  สจ. สส. แต่ถ้าคนที่ยอมเป็นทาสสังคมคิดอยากจะเป็นนายของสังคม  ก็วุ่นกันหนักแน่ท่านลองนึกดูเหตุการณ์ก็แล้วกัน  เพราะเวลาที่มาหาคะแนนเสียงกับประชาชนมักจะพูกันทุกคนว่า  ผมจะยอมรับใช้ประชาชนเต็มความสามารถขอให้ทุกท่านเลือกผมเถอะ    ตามที่ว่ามานี้ทุกท่านคงจะได้ยินจนชินหูแล้วนะครับ
           จากหนังสือข้อคิดสะกิดใจ ของวงศ์จำเริญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น