แม้ยุคแห่งการเป็นทาสของคนอื่นมันจะหมดไปแล้วตั้งแต่สมัย สมเด็จพระปิยมหาราช ( ร.5 ) พระองค์ทรงช่วยปลดเปลื้องพสกนิกรออกจากความเป็นทาสก็ตาม แต่ในปัจจุบันความเป็นทาสนั้นยังมีหลงเหลืออยู่ให้รับรู้โดยความเป็นนามธรรม หากท่านสงสัยก็ตามมาทางนี้ดีกว่าเพื่อจะได้ทำความเข้าใจตามความเป็นจริงทุกคนย่อมจะพูดออกมาได้เต็มปากว่าในยุคนี้ไม่มีทาสเหมือนแต่ก่อนแล้วก็จริง แต่ว่าทุกคนจะมีอาการโต้แย้งอยู่ในใจเสมอ “ ฉันยังเป็นทาสอยู่เหมือนเดิมหรือนี้ไม่น่าเลย ” คือคนในปัจจุบันเปลี่ยนจากความเป็นทาสแบบรูปธรรม ( มีตัวตน ) กลับมาเป็นทาสแบบนามธรรม ( ไม่มีตัวตน ) แทนอย่างไงละครับ ทุกคนได้ผ่านพ้นจากความเป็นทาสโดยกำเนิดในสมัยพระสมเด็จปิยมหาราชเจ้าก็จริงแต่ทุกคนก็ยังยอมเป็นทาสอยู่นั่นเองคือทาสจำยอมมีอยู่ 4 จำพวกดังนี้ ทาสรัก ทาสกิเลส ทาสวัตถุนิยม ทาสสังคม นี่ละครับทุกท่านคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตนไม่เคยเป็นทาสหนึ่งในสี่จำพวกนั้นมาก่อนหรือแม้แต่ในขณะนี้
ทาสรัก เป็นธรรมดาเมื่อเรา ๆ ท่าน ๆ มีความรักหรือมอบความรักให้แก่ใครแล้ว มักจะตกเป็นทาสของเขาแบบไม่รู้ตัวแบบถอนตัวไม่ออกเลยอาทิเช่น รักลูก รักแฟน จึงมักมีคำพังเพยว่า ความรักมักทำให้คนตาบอดและมักจะยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตนรักเสมอ
ทาสกิเลส คนส่วนมากไม่ว่าใครก็ตามยอมหนีจากทาสชนิดนี้ได้ยากเพราะมันติดตามตัวตนเรามาตั้งแต่เกิด ทาสชนิดนี้เกิดขึ้นกับใครแล้วย่อมทำจิตของเขาให้เศร้าหมอง ขุ่นมัว เร่าร้อน กระวนกระวาย กิเลสที่ว่านั้นมี ราคะ โทสะ โมหะ อิสสา ริษยา เป็นต้นแม้จะหนีเท่าไหร่ก็ไม้พ้นสักทีโยเฉาพะในปัจจุบันนี้ทาสชนิดนี้อาละวาดหนักมาก เกิดขึ้นในหมู่ชนทุกระดับตั้งแต่ ชาวนาจนระดับผู้บริหารประเทศชาติสังคมจึงประสบกับปัญหากันมาหลายต่อหลายรุ่น
ทาสวัตถุนิยม คือการที่บุคคลติดอยู่ในความทรงเจริญของโลกไม่สามารถหยุดใจห้ามตนเองได้เช่นเห็นคนอื่นมีเสื้อผ้าสวย ๆ บ้านหลังใหญ่โต รถคันหรู ๆ เป็นต้นก็อดใจไว้ไม่ได้จำต้องยอมเสียเงินทองแลกเปลี่ยนซื้อหามาเพื่อสนองความต้องการของตน ทาสวัตถุนิยมนี้หากว่าไม่พยายามตัดมันออกไปจะต้องได้รับความทุกข์ในมาจบสิ้นแน่แท้
ทาสสังคม คือการที่เรายอมรับใช้คนส่วนมากโดยการยอมทำหน้าที่เพื่อบริหารประเทศชาติบ้านเมืองแทนประชาชนอาทิเช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สจ. สส. แต่ถ้าคนที่ยอมเป็นทาสสังคมคิดอยากจะเป็นนายของสังคม ก็วุ่นกันหนักแน่ท่านลองนึกดูเหตุการณ์ก็แล้วกัน เพราะเวลาที่มาหาคะแนนเสียงกับประชาชนมักจะพูกันทุกคนว่า “ ผมจะยอมรับใช้ประชาชนเต็มความสามารถขอให้ทุกท่านเลือกผมเถอะ ” ตามที่ว่ามานี้ทุกท่านคงจะได้ยินจนชินหูแล้วนะครับ
จากหนังสือข้อคิดสะกิดใจ ของวงศ์จำเริญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น