ภูมิ ๔
กามาวจรภูมิ ชั้นท่องเที่ยวอยู่ในกาม
รูปาวจรภูมิ ชั้นท่องเที่ยวอยู่ในรูป
อรูปาวจรภูมิ ชั้นท่องเที่ยวอยู่ในอรูป
โลกุตตรภูมิ ชั้นพ้นจากโลก
ภูมิ ในที่นี้หมายถึงที่เกิดและที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แบ่งออกเป็น ๔ ภูมิ คือ
๑. กามาวจรภูมิ ภูมิที่สัตว์ยังเกี่ยวข้องในทางกามอยู่ มีระดับความหยาบ ละเอียดตามลำดับดังนี้
๑.๑ อบาย คือภูมิที่หาความเจริญมิได้มี ๔ คือ
๑. นิรยะ นรก
๒. ดิรัจฉานโยนิ กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน
๓. ปิตติวิสัย ภูมิแห่งเปรต
๔. อสุรกาย พวกอสุรกาย
๑.๒ มนุษยโลก คือโลกมนุษย์
๑.๓ สวรรค์ชั้นกามาวจร ๖ ชั้น คือ
๑. จาตุมหาราชิกา มีท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ เป็นใหญ่
๒. ดาวดึงส์ มีท้าวสักกะเทวราชเป็นใหญ่
๓. ยามา มีท้าวสุยามเป็นใหญ่
๔. ดุสิต มีท้าวสันดุสิตปกครอง
๕. นิมมานรดี มีท้าวสุนิมมิตปกครอง
๖. ปรนิมมิตวสวัดดี มีท้าวปรนิมมิตวสวัดดีปกครอง
๒. รูปาวจรภูมิ เป็นภูมิของพรหมมีรูป พวกนี้ไม่มีการเสพกามเกิดขึ้นด้วยอำนาจ " ฌาน " ที่ท่านเหล่านั้นได้บรรลุในชาติที่เป็นมนุษย์เรียงจากชั้นต่ำไปหาชั้นสูงดังนี้
๒.๑ พรหมปริสัชชา พรหมบริษัทของมหาพรหม
๒.๒ พรหมปุโรหิตา พรหมปุโรหิตของมหาพรหม
๒.๓ มหาพรหมา พวกท้าวมหาพรหม
พรหม ๓ ชั้นนี้ เกิดด้วยผลแห่งปฐมฌาน เรียกว่าปฐมฌานภูมิ
๒.๔ ปริตตาภา พรหมพวกมีรัศมีเพียงเล็กน้อย
๒.๕ อัปปมาณาภา พรหมพวกนี้รัศมีมีประมาณมิได้
๒.๖ อาภัสสรา พรหมมีรัศมีเปล่งปลั่ง ซ่านไป
พรหม ๓ ชั้นนี้ เกิดด้วยผลแห่งทุติยฌาน เรียกว่า ทุติยฌานภูมิ
๒.๗ ปริตตสุภา พวกมีลำรัศมีงามน้อย
๒.๘ อัปปมาณสุภา พวกมีลำรัศมีงามหาประมาณมิได้
๒.๙ สุภกิณหา พวกมีลำรัศมีงามเจิดจ้า
พรหม ๓ ชั้นนี้ เกิดด้วยผลแห่งตติยฌาน เรียกว่าตติยฌานภูมิ
๒.๑๐ เวหัปผลา พวกมีผลไพบูลย์
๒.๑๑ อสัญญีสัตตา พรหมไม่มีสัญญา คือมีแต่รูปเรียกว่าพรหมลูกฟัก
พรหม ๒ ชั้นนี้เกิดด้วยผลแห่งจตุตถฌาน ในที่บางแห่งบอกว่าอสัญญีสัตตา เป็นพรหมที่เคยเป็นนักบวชนอกพระศาสนา บำเพ็ญฌานเกิดความเบื่อหน่ายในจิต จึงเกิดเป็นพรหมที่ไม่มีจิตใจ หรือไม่มีสัญญา
๒.๑๒ อวิหา ท่านผู้ไม่ไปเร็ว หรือดำรงอยู่ได้นาน
๒.๑๓ อตัปปา ท่านผู้ไม่เดือดร้อนกับใคร ๆ
๒.๑๔ สุทัสสาท่านที่ปรากฏโดยง่าย ผู้น่าชม
๒.๑๕ สุทัสสี ท่านผู้เห็นโดยง่าย เห็นชัด
๒.๑๖ อกนิฏฐา ท่านผู้ไม่มีความด้อย หรือท่านผู้สูงสุด
พรหมโลก ๕ ชั้นนี้ เป็นที่เกิดของท่านผู้ได้บรรลุมรรคผล เป็นพระอนาคามีบุคคลท่านจึงเรียกว่า สุทธาวาส แปลว่าเป็นที่อยู่ของท่านผู้บริสุทธิ์ การมีรูปฌานแต่ละข้อ แบ่งพรหมให้สูงต่ำแตกต่างกันเป็นเพราะคุณภาพของฌานที่มี ต่ำ กลาง สูงสุด ผลฌานจึงเป็นผู้แบ่งให้พรหมเกิดในชั้นต่าง ๆ กัน แม้จะได้บรรลุฌานเหมือนกันก็ตาม
๓. อรูปาวจรภูมิ ชั้นที่ท่องเที่ยวในอรูป เกิดจากระดับจิตที่ปรารภอรูปเป็นอารมณ์ เป็นผลแห่งอรูปฌานที่ท่านเหล่านั้นได้บรรลุ ทำให้ท่านไปเกิดในอรูปภพ ซึ่งมีชื่อเหมือน " อรูปฌาน " คือ
๑. อากาสานัญจายตนภูมิ ชั้นเข้าถึงภาวะมีอากาศไม่มีที่สิ้นสุด
๒. วิญญาณัญจายตนภูมิ ชั้นที่เข้าถึงภาวะวิญญาณหาที่สุดมิได้
๓. อากิญจัญญายตนภูมิ ชั้นที่เข้าถึงภาวะไม่มีอะไร หรือมีเล็กน้อย
๔. เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ ภูมิที่เข้าถึงภาวะมีสัญญาก็มิใช่ไม่มีสัญญาก็มิใช่
อายุของเทวดา แตกต่างจากมนุษย์ ดังที่ทรงแสดงไว้ว่า
อายุของมนุษย์ ๕๐ ปี เท่ากับอายุของเทวดาชั้นจาตุมหาราช ๑ วันฉะนั้น อายุเฉลี่ยของเทวดาชั้นนี้ คือ ๘,๐๐๐ ปีทิพย์ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
อายุมนุษย์ ๑๐๐ ปีเท่ากับวัน ๑ คืน ๑ ของเทวดาชั้นดาวดึงส์
อายุมนุษย์ ๒๐๐ ปีเท่ากับวัน ๑ คืน ๑ ของเทวดาชั้นยามา
อายุมนุษย์ ๔๐๐ ปีเท่ากับวัน ๑ คืน ๑ ของเทวดาชั้นดุสิต
อายุมนุษย์ ๘๐๐ ปีเท่ากับวัน ๑ คืน ๑ ของเทวดาชั้นนิมมานรดี
อายุมนุษย์ ๑,๖๐๐ ปีเท่ากับวัน ๑ คืน ๑ ของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี
เพราะฉะนั้น ทั้งอายุ วรรณะ สุขะ พละ อธิปไตย เป็นต้น จึงเหนือกว่ากัน และสิ่งที่ทำให้เหนือกว่ากันก็คือ บุญกุศลที่บุคคลเหล่านั้นสร้างไว้ในอดีตชาตินั้น ๆ แตกต่างกัน พื้นฐานทางจิตจึงต่างกัน เมื่อพื้นฐานทางจิตต่างกัน ก็จำแนกภพให้แตกต่างกัน เหมือนกับคนที่มีความรู้ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาแตกต่างกัน เวลาไปทำงาน ก็ต้องจำแนกหน้าที่การงานให้แตกต่างกันนั้นเอง